วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[RB] Movie - Hero



(( รีวิวเก่า ... เอามาเก็บ  ให้คิดถึง 
ว่าครั้งหนึ่ง ...  เราเคยใคร่  ได้ทัศนา)) 



++  Hero ++



            Hero … จำได้ว่าอยากดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เห็นป้ายโปสเตอร์แผ่นใหญ่ที่สถานีรถไฟฟ้า .. ยิ่งเห็นดารานำ 
แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ  บวกกับชื่อผู้กำกับ  จางอี้โหมวเข้าด้วยแล้ว  ยิ่งทวีกำลังความน่าติดตามเป็นที่สุด ..

            แหะ ..แหะ .. แล้วก็อย่างที่บอก  กว่าจะได้ดูจริงๆ ก็เล่นเอามาล่าช้าป่านนี้ .. ^^ ..



            เรื่องนี้จากเท่าที่ฟังความคิดเห็นจากหลายๆ คน  มีทั้งชอบและไม่ชอบ  มีหลายคนที่ชอบแนวเก่าของ
ผู้กำกับคนนี้มากกว่าแนววิทยายุทธแบบนี้ ... แต่ โดยส่วนตัวแล้ว  ชอบนะ .. ชอบที่ตัวบทมาก
เป็นพิเศษด้วย  เพราะถือว่าเขานำเสนอออกมาได้แปลก  และกล้าที่จะนำเสนอ  ทั้งๆ ที่ถ้าดูกันตามพล๊อตเรื่องแล้ว
ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยจริงๆ .. ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นติดตามเท่าที่ควร 

          “ วีรบุรุษนักฆ่า .. ร่วมมือกันเล่นละครตบตายุทธจักร  เพื่อจะเข้าให้ถึงตัวจิ๋นซี  .. 
และสังหารเขา มีเท่านั้น

            แต่ที่ว่าน่าสนใจ .. คือ  การนำเสนอมากกว่า  ชอบตรงการใช้โทนสีเข้ามาเกี่ยวข้อง  กับปรัชญาของตัวบท
รวมถึงการเล่าเรื่องที่แบ่งเป็นตอนๆ  คล้าย ราโชมอน  เรื่องจริง .. เรื่องโกหก .. เรื่องที่ปนกันทั้ง 2 อย่าง ..
โดยเสนอผ่านโทนสีของเรื่อง  แดง  ฟ้า  เขียว  และ  ขาว  .. แล้วสีนี่ถ้าดูกัน   จริงๆแล้วเขาละเอียดมาก
จนมองดูทุกฉากสวย  แม้แต่ฉากต่อสู้  แดงก็แดงไปตั้งแต่ต้นไม้ถึงเม็ดทรายเลยทีเดียว ...

            มาพูดถึงฉากประทับใจ ..  คงเป็นตอนต่อสู้ของ   กระบี่หัก (Tony  Leung  Chiu-wai  ) กับ  นิรนาม
( Jet Lee )  ในโทนเรื่องสีเขียว ...

            ขณะที่ที่ทั้ง 2 ต่อสู้กัน  .. หยดน้ำได้กระเซ็นไปเปื้อนใบหน้าไร้วิญญาณของ  หิมะเหิร 
( Mackkie Chane )กระบี่หักละทิ้งทุกสิ่งทันที  เขาหันกลับมุ่งตรงไปยังศาลากลางน้ำที่ร่างของนางแน่นิ่งอยู่ 
ไม่สนแม้ปลายดาบ ที่จะจ่อแทงเข้ามาข้างหลัง ..  เพียงเพื่อ  จะเข้ามาใช้ปลายนิ้ว ซับหยดน้ำ 
ให้เหือดหายไปจากใบหน้าของคนรัก ..

            และฉากสุดท้ายในโทนสีขาว   ที่หิมะเห  ประมือ  กับกระบี่หัก  ..  ฉากนี้  Tony  ในบทของกระบี่หัก 
สื่อออกมาทางแววตาได้ดีมากๆ  ถึงความเจ็บปวดที่คนรักไม่เข้าใจ .. และอีกเช่นกัน  Mackkie  เองก็ระเบิดอารมณ์
ออกมาได้อย่างสิ้นหวังสุดๆ  ยามส่งเสียงร่ำไห้โหยหวน  เมื่อดาบสุดท้ายของนาง  ทะลุผ่านร่างคนรัก 
โดยที่เขาหาปัดป้องไม่ ... เหตุผลข้อเดียว   เพียงแค่อยากให้นางยินยอมเชื่อใจในตัวเขา ..



หิมะเหิร         -        เจ้าไม่เคยสนใจอะไรเลยใช่ไหม  สนใจแต่กษัตริย์จิ๋น
กระบี่หัก        -        และเจ้า ...
หิมะเหิร         -        ข้าไม่เชื่อ
กระบี่หัก        -        แล้วทำยังไงเจ้าถึงจะเชื่อ ...


            ทั้งเรื่องการแสดงออกของตัวละครดูสั้นๆ  และไร้ความรู้สึก  มีฉากอารมณ์ไม่กี่ฉาก  เท่าที่เห็นก็
ในฉากจบ .. การดวลกันของกระบี่หักกับหิมะเหิร  และอีกฉาก  ตอนที่กษัตริย์จิ๋นหลั่งน้ำตา  ยามเมื่อฟัง
คำพูดของนิรนาม  ถึงอักษร 2 ตัว  ที่กระบี่หักเขียนให้เขา ...

            ในความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ฉากนี้ เต้าหมิงซื่อ  เล่นออกมาได้ดีมากเลย  เพราะมันแสดงออกมาถึง
อารมณ์โหยหา .. ขณะยืนอยู่อย่างเค้วงคว้างโดดเดี่ยวเหน็บหนาว .. ท่ามกลางหัวใจที่สร้างเกาะปราการ
ฉาบหน้าด้วยความเลือดเย็น  เบื้องหลัง  คือความอ่อนแอ  ที่ไร้แม้แต่ใครสักคนจะสนใจ .. แต่อักษรแค่ 2 ตัว
สามารถกรีดทลายกำแพงลงฉับพลัน .. คนเข้าใจ  ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบ  และจากคน  ที่ไม่เคยคิดว่าจะ
ได้รับ ... และนั่น  เป็นสาเหตุ  ที่ทำให้  กษัตริย์หลั่งน้ำตาต่อหน้าศัตรู ...

            เรื่องนี้มีสัญลักษณ์ต่างๆ ให้ขบคิดมากมาย  รวมถึงบทสรุปของการเล่าเรื่องผ่านสี  อย่างเช่น 
ถ้าใช้อารมณ์มานำหน้าชีวิต   อย่างเนื้อเรื่องในโทนสีแดง  จุดจบเป็นเช่นไร?? .. แต่ที่ชอบมากที่สุด
กลับเป็นประโยคกินใจของเรื่องประโยคนี้  ..

            ปานเดือน .. มอบกระบี่ของข้า  ให้อาจารย์นิรนาม  หิมะเหิรกับข้า
ไม่เคยแยกจากกัน   กระบี่ของเราก็เช่นกัน .... 

            ใครชอบงานศิลป์  ภาพสวย  การนำเสนอที่แปลก  และแง่มุมปรัชญา  ก็ควรซื้อเก็บไว้ดูค่ะ ..
แต่ถ้าไม่ชอบ  ดูสักครั้ง  นั่งคิด .. ก็อาจจะเก็บปรัชญาดีๆ อะไรกลับมาใช้กับชีวิตประจำวันของเรา
ได้สักข้อ .... ลองดูค่ะ ...^^


---------------------- ***  The  End of Review  *** ---------------------




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น