วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

[RB] JDrama - Bara no nai Hanaya : ร้านดอกไม้ที่ไร้ดอกกุหลาบ



Bara no nai Hanaya [Jdrama] : ร้านดอกไม้ที่ไร้ดอกกุหลาบ

            คุณเคยดูซีรีีย์ที่ทำให้น้ำตาไหลไหม .. แม้กระทั่งฉากที่ตัวละครไม่ได้ร้องไห้ .. 
แต่คนดูกลับนั่งน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว???

เรื่องย่อ ( เท่าที่จับใจความได้ )

            Eiji  พ่อม่ายที่เลี้ยง Shizuku ลูกสาวมาตามลำพังหลังจากที่ผู้หญิงที่เขารักจากไป
เขาก็ทำงานเก็บเงินเพื่อจะเปิดร้านดอกไม้ตามความฝันสุดท้ายของเธอ .. ร้านดอกไม้ ..
ที่ไม่ขายดอกกุหลาบ  แม้ว่า .. จะเป็นดอกไม้ที่ทำราคาให้มากมายเพียงใดก็ตาม




            จนกระทั้งวันหนึ่ง Mio หญิงสาวตาบอดได้แวะเข้ามาหลบฝนที่ร้านของเขา ด้วยความสงสาร
Eiji  จึงช่วยเหลือเธอ โดยหารู้ไม่ว่า ..แท้จริงแล้ว  เธอไม่ได้ตาบอดอย่างที่เขาคิด แล้วหญิงสาว
แสนสวยตั้งใจเอาตัวมาพัวพันกับเขาทำไม?  ด้วยเหตุใด? และเพราะอะไรถึงต้องแกล้งตาบอด?
หาคำตอบได้จากในเรื่องนะคะ 



** Spoil – สปอย **
 ( ถ้ายังไม่ได้ดูอย่าตามมานะคะ  เดี๋ยวจะเสียรสชาติในการชมค่ะ  ^_^ )


            เรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ดูแล้วปะปนกันไปทั้งรอยยิ้มและน้ำตา  แอบแถมความหงุดหงิดใจกับบทเรียกร้อง
ความสนใจของ Mio อยู่ประปราย .. ^^ .. ตามจริงการแสดงออกแนวเอาแต่ใจของสาวตาบอดแบบนี้ก็คง
พอรับได้ถ้าจะไม่รู้สึกว่า Mio  ในเรื่องดูเกินวัยที่จะทำอะไรแบบนั้นแล้ว  เพราะฉะนั้น ..ฉากที่ควรจะน่ารัก
มันก็เลยรู้สึกขัดตาขัดยิ่งนัก ...

            อีกจุดที่ส่วนตัวแล้วคิดว่าเนื้อเรื่องขาดหายไปก็คือ  การปูทางความสัมพันธ์ระหว่าง Mio กับพ่อ
ซึ่งถ้าเรื่องเน้นย้อนไปถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าจริงๆ ผูกพันกันให้มากกว่านี้  น้ำหนักของเหตุผล
ในการบีบ  Mio  ให้ต้องมาหลอก Eiji เพื่อช่วยชีวิตพ่อของตัวเองก็จะน่าเชื่อถือ  แน่นและเป็นจริงพอที่จะ
ดึงให้บทบาทของ  Mio  ในหลายๆ ฉากดูลื่นไหลและคล้อยตามได้มากขึ้น  อย่างฉากตอนกลางเรื่อง
ที่ Mio เริ่มหลงรัก Eiji แล้ว  ในฉากที่เธอร้องไห้แบบทรมานใจ  ที่รู้ทั้งรู้ว่ากำลังทำร้ายคนที่เธอรัก 
แต่ก็ยังต้องทำ .. จึงไม่ได้สร้างความบาดหัวใจเท่าไหร่นักเมื่อมาถึง ..

            ผิดกับบทของ Eiji  ที่บีบใจคนดูตั้งแต่ต้นเรื่องยันตอนสุดท้าย  ตั้งแต่การท้าวความถึง
นักรบนิรนาม  อดีตเด็กที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายและต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  ฉากที่ต้องยิ้ม
ทั้งที่รู้ความจริงอยู่เต็มอกว่าผู้หญิงที่เขารักโกหก  ฉากที่เขาตะโกนใส่ลูกสาวของตัวเองเพื่อจะ
บีบให้ไปอยู่ในความอุปการะของคุณตา .. และจบบทสุดท้าย  ด้วยฉากโทรศัพท์บอกความจริง
เกี่ยวกับตัวเขากับลูกสาวของตัวเอง .. ซึ่งแต่ละฉากล้วนมีที่มาที่ไป  มีเหตุผลรองรับ 
แน่นและหนัก จนดูไปแอบรู้สึกว่ามันหนักไปไหมนะ .. สำหรับชีวิตของใครสักคน??

            ที่ลงตัวมากที่สุดคงเป็นบทของ Shizuk ลูกสาวตัวน้อยในเรื่องที่ เข้มแข็ง ช่างสังเกต แม้จะ
ดูเป็นผู้ใหญ่ไปบ้าง  อาจเพราะขาดแม่ตั้งแต่เด็กและเป็นผู้หญิงคนเดียวในครอบครัว ซึ่งอันนี้พอมี
เหตุผลยอมรับได้ ..^^  ที่น่าสนใจก็คือ เขียนบทได้เผยความมีไหวพริบของหนูน้อยคนนี้ได้
อย่างหลักแหลม  และเผยตัวตนของเด็กผู้หญิงที่อยู่เพียงลำพังกับพ่อตั้งแต่เล็กได้ลึกซึ้งดีแท้ 
อย่างตอนที่ Shizuk  ยอมขึ้นรถมาที่บ้านหลังหนึ่งหลังเลิกเรียน  ตอนขากลับเธอบอกกับคุณตา
ที่พามาว่า  ปกติแล้วคุณครูไม่ให้ไปไหนกับคนแปลกหน้าหรอก  แต่ที่เธอยอมมาด้วยในวันนี้ 
เพียงเพราะต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง .. พูดเสร็จหนูน้อยก็เดินไปหยิบ 1 ในหลายรูปของ
หญิงสาวสวยที่ตั้งโชว์ขึ้นมาดูแล้วหันมาถามพร้อมรอยยิ้มว่า ... คุณเป็นคุณตาของหนูใช่รึเปล่าคะ??

            พูดถึงแก่นของเรื่องแล้ว  มีหลายฉากหลายตอนของซีรีย์เรื่องนี้ที่ชอบมาก  บางทีดูไปก็อึ้งไป
เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่  แต่เขาสื่อในมุมที่บางทีเราก็ลืมนึกไป ... อย่างเช่น

            ตอนที่ Eiji  เสียใจที่ตบหน้า Shizuk แล้วก็พูดออกมาเหมือนคนหัวใจสลายว่า  เขาไม่น่า
ทำอย่างนั้น การที่พ่อแม่ตีเด็กแล้วเด็กทำตามนั้น  ไม่ได้หมายความว่าเด็กรู้หรือเข้าใจหรอก 
แต่เป็นเพราะ  เด็กกลัวที่จะเจ็บอีกต่างหาก .. คนที่เป็นพ่อแม่คนนั้นต้องมีความอดทน 
แต่เป็นเพราะเขานั้นมีความอดทนไม่พอ จึงได้พลั้งมือตีลูกสาวไป  แล้วก็ชกเสาด้วยความเสียใจ ..
แต่หมัดฮุกน่ะ ...อยู่ในประโยคสุดท้ายของ  Master ร้านกาแฟค่ะ .. ^^  Master หันมองมอง
แล้วเดินย้อนเ้ข้ามาจับมือเขาไว้ พร้อมกับพูดว่า ....

            พ่อแม่น่ะก็เป็นคนเหมือนกันนี่นะ  เพราะฉะนั้นมันไม่แปลกหรอกที่จะทำผิดพลั้งไปบ้าง 
เพียงแต่ถ้ารู้ว่าผิด  ก็ต้องขอโทษลูก .. ก็แค่นั้นเอง ..^^

            หรืออีกฉากที่ทำเอาอึ้ง ..ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าเราเคยคิดแบบนี้ไปบ้างไหมนะ ..555
เป็นฉากเล็กๆ น้อยๆ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต  ขณะที่ Shizuk พา Mio ไปซื้อของแล้วจูง Mio ย้ายแถว
ขณะรอจ่ายเงินพร้อมกับอธิบายว่า

            พ่อบอกว่าให้มายืนต่อแถวคนแก่เวลาจ่ายเงิน   เพราะสงสารที่คนแก่มักจะโดนว่า
เรื่องจ่ายเงินช้ากว่าคนอื่น

            ดูซีรีย์เรื่องนี้จบด้วยความอิ่ม ..ที่ไม่ใช่อิ่มแบบ Bambino หรือ Osen ..555 แต่เป็นอิ่มอกอิ่มใจ
เพราะได้อะไรกลับมากมายเกินกว่าเพียงแค่อาหารทางความบันเทิง

            เพราะคงไม่บ่อยนักที่จะได้ดูซีรีย์อุ่นๆ สักเรื่องแล้วทำให้กลับมาฉุกคิด (หลังจาก Thank you
เมื่อปีที่แล้ว) พร้อมกับรู้สึกประทับใจในหลายๆ ฉาก  แอบอึ้งกับหลายมุมมอง  มีน้ำตาซึมให้กับ
หลายประโยคความคิด  และแอบตื้นตันกับน้ำใจที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงมีให้แก่คนอื่น  ที่สำคัญ
อดยิ้มไม่ได้ให้กับความผูกพันของพ่อกับลูกสาว .. ที่มากกว่าคำว่า สายเลือด  ภาพของ 2 พ่อลูก
ที่นั่งหันหลังมองพระอาทิตย์ตกเงียบๆ ด้วยกันบนกองท่อนซุง  บ่งบอกอะไรได้มากมายเกินกว่า
แค่ความสัมพันธ์ของ  พ่อ  กับ  ลูก ...ยิ่งนัก

            คนเรา ..แม้ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน  แต่ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 
            เราก็สามารถเป็นครอบครัวเดียวกันได้นี่นะ

            ประโยคข้างต้นนั้น ..จริงล่ะหรือ!!!  หาคำตอบได้ใน ร้านดอกไม้ไร้ดอกกุหลาบร้านนี้ค่ะ ..^^



---------------------- ***  The  End of Review  *** ---------------------
__ Peachii ___

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น